รีวิว Huawei Pura 80 Pro กล้องโหดมาก! รีวิวพร้อมรูปตัวอย่าง

การกลับมาของ Huawei Pura 80 Pro ไม่ได้เป็นเพียงการอัปเกรด แต่เป็นการยกระดับประสบการณ์การใช้งานสมาร์ทโฟนไปอีกขั้น โดยเฉพาะในด้านการถ่ายภาพและวิดีโอที่ก้าวข้ามขีดจำกัดเดิมๆ บทความนี้จะเจาะลึกทุกรายละเอียดที่ทำให้ Pura 80 Pro เป็นตัวเลือกที่น่าสนใจสำหรับผู้ที่มองหาสมาร์ทโฟนระดับพรีเมียม

สเปกและดีไซน์ พัฒนามาจากรุ่นก่อนหน้าอย่างก้าวกระโดด

Huawei Pura 80 Pro ได้รับการพัฒนาต่อยอดจากรุ่นก่อนอย่างเห็นได้ชัดในหลายๆ ด้าน ตัวเครื่องมีความบาง 8.3 มิลลิเมตร และมีน้ำหนัก 219 กรัม ซึ่งถือว่าเหมาะมือสำหรับการใช้งานในชีวิตประจำวัน สำหรับรุ่น Ultra จะมีน้ำหนัก 233.5 กรัม

Pura 80 Pro มาพร้อมหน้าจอ LTPO OLED ขนาด 6.8 นิ้ว ที่รองรับสีสัน 1,000 ล้านสี (10-bit) ให้ความละเอียด 460 PPI พร้อมอัตรารีเฟรชแบบปรับได้ตั้งแต่ 1-120Hz และ PWM Dimming ที่ 1440Hz ทำให้การแสดงผลลื่นไหลและสบายตา ความสว่างสูงสุดที่ 3000 nits ทำให้หน้าจอสว่างมาก ใช้งานกลางแจ้งได้อย่างสบาย หน้าจอยังมาพร้อมกระจก Kunlun Glass Generation 2 ที่ทนทานต่อรอยขีดข่วนได้มากถึง 20 เท่า เมื่อเทียบกับกระจกทั่วไป

ประสิทธิภาพและแบตเตอรี่

ตัวเครื่องมาพร้อม RAM 12GB และ Storage 512GB แต่ไม่รองรับ MicroSD Card แบตเตอรี่ขนาด 5170mAh รองรับการชาร์จเร็วแบบมีสาย 100W และไร้สาย 80W ซึ่งเทียบเท่ากับรุ่น Ultra

รองรับ Wi-Fi 7, Bluetooth 5.2, และ USB-C 3.1 Gen 1 มีมาตรฐานกันน้ำกันฝุ่น IP68 ระบบเสียงเป็นแบบสเตอริโอพร้อมเทคโนโลยี Huawei Histen ที่ให้คุณภาพเสียงที่ดีขึ้นกว่าเดิม อย่างไรก็ตาม ตำแหน่งสแกนลายนิ้วมืออยู่ด้านข้างตัวเครื่อง ซึ่งบางคนอาจจะเสียดายที่ไม่ได้อยู่ใต้หน้าจอ

จุดเด่นที่สุดของ Huawei Pura 80 Pro คือประสิทธิภาพของกล้องที่เรียกได้ว่า "โคตรโหด" และ "ยอดเยี่ยม"

• กล้องหลัก มาพร้อมเซ็นเซอร์ 50 ล้านพิกเซล ใช้เทคโนโลยี RYYB ขนาดใหญ่ 1 นิ้ว ซึ่งเป็นเอกสิทธิ์เฉพาะของ Huawei รูรับแสงสามารถปรับได้ตั้งแต่ F1.6 ถึง F4.0 พร้อมระบบกันสั่น OIS หากถ่ายในโหมด Auto ตัวกล้องจะปรับรูรับแสงให้อัตโนมัติ
• กล้องหน้า ความละเอียด 13 ล้านพิกเซล รูรับแสง F2.0 พร้อม Auto Focus สามารถถ่ายวิดีโอ 4K 60fps ได้ แต่ไม่รองรับ HDR Vivid ซึ่งจะรองรับเฉพาะกล้องหลัง
• กล้อง Telephoto มีความละเอียด 48 ล้านพิกเซล ใช้เซ็นเซอร์ขนาด 1/1.28 นิ้ว รูรับแสง F2.1 เป็นเลนส์ Telephoto Macro ที่สามารถถ่ายวัตถุใกล้ได้ถึง 5 เซนติเมตร ที่สำคัญคือขนาดเซ็นเซอร์ของเลนส์ Tele Macro นี้ใหญ่เท่ากับเซ็นเซอร์หลักของ iPhone 16 Pro Max ซึ่งถือว่าใหญ่มากๆ ทำให้การซูมทำได้ดีเยี่ยม ตั้งแต่ 4x ไปจนถึง 100x

• กล้อง Ultra-wide ความละเอียด 40 ล้านพิกเซล รูรับแสง F2.2

คุณภาพของภาพถ่ายสามารถเก็บทุกรายละเอียดในทุกสภาพแสง

ภาพบุคคล (Portrait): Pura 80 Pro โดดเด่นในการถ่ายภาพบุคคล สามารถถ่ายได้ในทุกระยะซูมตั้งแต่ 1x ไปจนถึง 6x (ประมาณ 134 มม.) การตัดขอบทำได้อย่างแม่นยำในระดับ "เทพ" และยังคงรักษาความต่อเนื่องของสีและคอนทราสต์ในไฮไลท์ได้อย่างยอดเยี่ยม

Dynamic Range และสีสัน: ตัวเครื่องสามารถเก็บ Dynamic Range ได้กว้างมาก ทำให้สามารถเก็บรายละเอียดได้ดีทั้งในส่วนมืดและส่วนสว่าง สีสันโดยรวมมีความตรงแม่นยำในทุกเลนส์ รวมถึงมิติของภาพที่ดูดีขึ้นด้วย

การถ่ายในที่แสงน้อยและแฟลช ทำได้ดีเยี่ยม ภาพถ่ายในที่แสงน้อยยังคงมี Noise ต่ำ สีค่อนข้างตรง และสามารถเก็บรายละเอียดของแสงสีต่างๆ (ชมพู ม่วง น้ำเงิน) ได้อย่างครบถ้วนโดยไม่มีการเพี้ยน โหมดกลางคืนไม่จำเป็นต้องตั้งค่าอะไรเลย เพียงแค่กดถ่ายภาพก็จะสวยงาม การใช้แฟลชก็ทำได้ดีกว่าเดิม เก็บไฮไลท์มาได้ครบถ้วนโดยไม่หลุด

คุณภาพของวิดีโอ

ทั้งกล้องหน้าและกล้องหลังให้คุณภาพวิดีโอที่ "ดีสุดๆ" มีความลื่นไหล การเก็บเสียงทำได้ดี และเก็บแสงได้อย่างยอดเยี่ยม ไม่เกิดอาการวูบวาบ โทนสีของวิดีโอเหมือนกับรูปภาพ กล้องหลังสามารถถ่าย 4K 60fps ได้อย่างมีสีสันและรายละเอียดที่คมชัด

แม้ว่าจะไม่มีโปรไฟล์ Log ให้ดึงสี แต่ HDR Vivid ของ Huawei ก็สามารถเก็บ Dynamic Range ได้สูงมากอยู่แล้ว และไฟล์ที่ได้ก็สวยงาม สามารถนำไปเกรดสีต่อได้ การถ่ายวิดีโอในที่แสงน้อยหรือมีแสงที่ท้าทายก็ยังคงเก็บรายละเอียดได้ดี ระบบกันสั่นทำงานได้ดี แต่รองรับสูงสุดที่ 2.7K ส่วนโหมด Dual Video ยังคงถ่ายได้เพียง Full HD ซึ่งเป็นข้อจำกัดเล็กน้อย

ประสบการณ์การใช้งาน AI อัจฉริยะและแอปพลิเคชันที่พัฒนาขึ้น

Huawei Pura 80 Pro มาพร้อม EMUI 15.0 Global และมีฟีเจอร์ AI ที่น่าสนใจ

• AI-based Expression: สามารถเลือกใบหน้าที่ดีที่สุดจากรูปภาพหลายรูป แม้กระทั่งเปลี่ยนใบหน้าที่หลับตาหรือไม่สวยให้ดูดีขึ้นได้
• AI Messaging: ซ่อนการแจ้งเตือนเมื่อมีคนกำลังมองหน้าจอของคุณ
• AI Smart Gesture: ควบคุมสมาร์ทโฟนได้โดยไม่ต้องสัมผัสหน้าจอ เพียงแค่โบกมือในอากาศ

การใช้งานแอปพลิเคชัน

ผู้ใช้งานสามารถใช้แอปพลิเคชันทั่วไปได้อย่างปกติ แอปพลิเคชันพื้นฐานเช่น Google Maps สามารถซิงค์กับ Gmail ได้ รวมถึงแอปธนาคารก็ใช้งานได้ราบรื่น แอปพลิเคชันส่วนใหญ่สามารถดาวน์โหลดได้จาก AppGallery หรือผ่าน Gbox สำหรับบางแอปเช่น Netflix YouTube ก็สามารถเข้าเล่นได้ทันทีและมีการอ้างอิงอัตรารีเฟรชตามเครื่อง ทำให้ใช้งานได้ลื่นไหลกว่าเดิม

การเล่นเกม

ในส่วนของการเล่นเกม Pura 80 Pro อาจจะไม่ได้รองรับชิปเซ็ตได้เต็มประสิทธิภาพเท่าที่ควรในตอนนี้ เกมบางเกมเช่น RoV สามารถเล่นได้ที่ 45fps และ Honkai Star Rail สามารถปรับกราฟิกได้สูงสุด แม้เฟรมเรตอาจจะดรอปลงบ้างในบางสถานการณ์ แต่โดยรวมถือว่าเล่นได้ลื่นไหลและประหยัดแบตเตอรี่ อย่างไรก็ตาม ตัวเครื่องอาจจะร้อนไวในขณะเล่นเกมหนักๆ

ด้านสัญญาณและการเชื่อมต่อในด้านสัญญาณ 4G Huawei Pura 80 Pro สามารถจับสัญญาณได้ดีและมีความแรง และการจับสัญญาณดาวเทียมก็ทำได้ดีเยี่ยม

สรุป

Huawei Pura 80 Pro เป็นสมาร์ทโฟนที่โดดเด่นอย่างมากในด้านการถ่ายภาพและวิดีโอ ด้วยเทคโนโลยีกล้องที่ล้ำสมัยและเซ็นเซอร์ขนาดใหญ่ ทำให้ได้ภาพถ่ายและวิดีโอคุณภาพสูงในทุกสภาพแสงและทุกระยะ สำหรับผู้ที่ชื่นชอบการถ่ายภาพเป็นหลัก การลงทุนกับ Pura 80 Pro ถือว่า "เจ๋งมาก" และ "โคตรคุ้ม" แม้จะมีข้อสังเกตบางประการในด้านซอฟต์แวร์และการเล่นเกม แต่ประสบการณ์โดยรวมที่ได้รับจากกล้องและประสิทธิภาพพื้นฐานนั้นน่าประทับใจเป็นอย่างยิ่ง และด้วยราคาประมาณ 38,000 บาท พร้อมโปรโมชันต่างๆ เช่น Huawei Watch Fit และ Huawei Care ทำให้ Pura 80 Pro เป็นตัวเลือกที่ "น่าเล่นมาก"