รีวิวแท็บเล็ต Xiaomi Pad 7 Pro เน้นความโคตรคุ้ม เรือธงมี AI
สวัสดีครับคุณผู้ชม! วันนี้เราจะมาเจาะลึกรีวิว Xiaomi Pad 7 Pro แท็บเล็ตที่หลายคนรอคอยและสอบถามกันเข้ามาเยอะมาก หลังจากที่ได้ลองใช้งานจริงจัง ก็ถึงเวลามาสรุปให้ฟังกันแล้วว่ามันทำงานได้แบบไหน มีโหมดอะไรน่าสนใจบ้าง โดยเฉพาะเรื่อง AI ที่ Xiaomi จัดหนักจัดเต็มเข้ามาในรุ่นนี้ พร้อมสเปคที่ให้มาแบบไม่กั๊ก ไม่น้อยหน้าโทรศัพท์มือถือเลยทีเดียว แต่จะมีข้อดีข้อเสียอย่างไรบ้าง ผมจะแยกย่อยเป็นประเด็นให้ฟังกันชัดๆ ครับ
จุดเด่นสำคัญของ Xiaomi Pad 7 Pro ที่คุณต้องรู้
- ซอฟต์แวร์คือหัวใจ (HyperOS): จุดสำคัญของแท็บเล็ตยุคนี้อยู่ที่ซอฟต์แวร์จริงๆ ต่อให้สเปคเทพแค่ไหน ถ้าซอฟต์แวร์ไม่ลื่นไหล ไม่ Seamless ก็จบ ซึ่ง Xiaomi Pad 7 Pro มาพร้อม HyperOS ที่ผมบอกเลยว่าลื่นไหล ทำงานร่วมกันได้ดีมาก โดยเฉพาะการทำงานร่วมกับอุปกรณ์อื่นๆ ของ Xiaomi คือดีงาม ใครใช้ Xiaomi อยู่แล้วจะยิ่งฟิน ใช้ 3 หน้าจอต่อกัน นู่นนี่นั่น สะดวกสบายสุดๆ
- สเปคจัดเต็ม ไม่น้อยหน้ามือถือ: ให้สเปคมาแบบไม่ลดหลั่นจากโทรศัพท์เลย ทั้งชิปเซ็ต Snapdragon 8s Gen 3, RAM สูงสุด 12GB, Storage สูงสุด 512GB (LPDDR5X และ UFS 4.0) ทำให้การใช้งานทั่วไป เล่นเกม หรือทำงานหนักๆ เป็นไปได้อย่างราบรื่น
- AI อัจฉริยะ ช่วยงานรอบด้าน: Xiaomi อัด AI เข้ามาค่อนข้างเยอะ ทั้งช่วยประมวลผลให้รวดเร็ว, AI ช่วยพิมพ์, ช่วยเขียน, แปลงเสียงเป็นข้อความ (รองรับหลายสิบภาษา), หรือแม้แต่การเขียนคำนวณง่ายๆ บนหน้าจอ (เช่น 200+200=) มันก็คำนวณให้เลย
ดีไซน์และวัสดุพรีเมียม
ตัวเครื่องของ Xiaomi Pad 7 Pro เป็นอลูมิเนียมทั้งตัว ให้ความรู้สึกแข็งแรงพรีเมียม และเป็นเกรดเบาด้วย มีให้เลือก 2 สีคือ สีเทา (Grey) และสีฟ้า (Blue) ด้านหลังมีพินสำหรับเชื่อมต่อกับคีย์บอร์ด
- ด้านบน: ปุ่มเพิ่ม-ลดเสียง
- ด้านซ้าย: ปุ่มสแกนลายนิ้วมือพร้อมปุ่ม Power (ไม่ได้สแกนบนหน้าจอ)
- ด้านล่าง: เรียบๆ ไม่มีอะไร
- พอร์ตชาร์จ: USB-C รองรับชาร์จเร็ว 67W (ชาร์จเต็ม 100% ใน 79 นาที)
หน้าจอสวยคมชัดระดับ 3.2K
หน้าจอเป็นอีกจุดที่น่าประทับใจ ให้มาค่อนข้างดี มีความละเอียดสูงถึง 3.2K (3200 x 2136 พิกเซล) ซึ่งน่าจะละเอียดที่สุดในราคาระดับนี้แล้ว (345 PPI) ความสว่างสูงสุด 800 nits, อัตรารีเฟรช 144Hz ขนาด 11.2 นิ้ว อัตราส่วน 3:2 เหมาะสำหรับการใช้งานแนวตั้ง อ่านหนังสือ หรือทำงานเอกสารได้เต็มตามากขึ้น มี Hardware-level blue light reduction และได้รับการรับรองจาก TUV Rheinland ช่วยถนอมสายตา
ปากกา Xiaomi Focus Pen และฟีเจอร์
ปากกา (ไม่ใช่ดินสอ) แต่สามารถ Sketch ได้เหมือนดินสอ เป็น Focus Pen รองรับแรงกด 8192 ระดับ ชาร์จแบบแม่เหล็กดูดติดกับตัวเครื่อง (แปะสลับด้านก็ชาร์จได้ และแน่นทั้งคู่) มีปุ่ม 3 ปุ่ม
- ปุ่มล่าง กดเพื่อเขียนบนหน้าจอทันที
- ปุ่มบน กดเพื่อแคปหน้าจอ (สามารถเลือก Crop เฉพาะส่วนได้)
- ปุ่มที่สาม ตั้งค่าสำหรับฟังก์ชันอื่นๆ ได้
แม้ฟีเจอร์ปากกาอาจจะยังไม่เท่า Samsung (เช่น การแปลภาษาโดยตรง) แต่ก็เพียงพอสำหรับการจดโน้ต วาดรูป หรือใช้งานทั่วไป
กล้องถ่ายภาพและวิดีโอ
- กล้องหลัง 50 ล้านพิกเซล เซ็นเซอร์ JN1 (1/2.76", F1.8) ซึ่งเป็นเซ็นเซอร์ระดับ Flagship ที่มักใช้ในมือถือรุ่นท็อป รองรับเทคโนโลยี 4-in-1 pixel binning ถ่ายวิดีโอได้สูงสุด 4K 30/60fps และ Full HD 60fps คุณภาพดีสำหรับแท็บเล็ต ถ่ายภาพบุคคลละลายหลังได้ดี มีโบเก้ให้
- กล้องหน้า (แนวนอน) 32 ล้านพิกเซล (1/3.6 นิ้ว) ถ่ายวิดีโอ Full HD 30fps มี HDR และโหมดภาพเคลื่อนไหว Dynamic เหมาะสำหรับวิดีโอคอล
- โดยรวม กล้องให้รายละเอียดที่ดี สีสันสดใส ถ่ายย้อนแสงได้ดีพอสมควร กล้องหลังโฟกัสได้ใกล้ประมาณ 10 ซม.
ระบบเสียง Dolby Atmos กระหึ่ม
ลำโพง 4 ตัว ระบบเสียง Dolby Atmos ให้เสียงดังฟังชัด มีมิติ สามารถบูสต์เสียงได้ถึง 200% เหมาะสำหรับดูหนัง ฟังเพลง หรือประชุมออนไลน์
แบตเตอรี่และการชาร์จ
แบตเตอรี่ให้มา 8,850 mAh สามารถดูวิดีโอได้นานถึง 19 ชั่วโมง รองรับชาร์จเร็ว 67W ชาร์จเต็มในเวลาประมาณ 79 นาที ถือว่าชาร์จเร็วมากสำหรับแท็บเล็ต
ฟีเจอร์เด่นด้านซอฟต์แวร์และ AI
- Taskbar ด้านล่าง ใส่ได้สูงสุด 12 แอป
- Multitasking แบ่ง 2 หน้าจอ, หน้าต่างลอย (Pop-up) ทำได้ง่าย
- App Extend แอปอย่าง Shopee, Lazada จะแสดงผลแบบ 2 ส่วนในแนวนอน คล้ายกับที่เคยเห็นใน Huawei
- Clone Apps โคลนแอปได้เกือบทุกแอป! ทำให้ใช้งานหลายบัญชีได้สะดวกมาก
- Workstation Mode เปลี่ยน UI ให้คล้าย Desktop PC เปิดได้สูงสุด 4 แอปพร้อมกัน เหมาะกับการทำงานจริงจัง (แต่บางแอปอาจยังไม่สมบูรณ์ 100%)
- AI Transcription แปลงเสียงเป็นข้อความได้หลายสิบภาษา
- AI ช่วยเขียน สามารถเขียนคำนวณง่ายๆ หรือให้ AI ช่วยร่างข้อความได้
- การเชื่อมต่อกับ PC สามารถเชื่อมต่อกับคอมพิวเตอร์เพื่อใช้งานร่วมกันได้
- Video Call ผ่านกล้องมือถือ สามารถใช้กล้องโทรศัพท์ Xiaomi เป็นกล้องสำหรับ Video Call บนแท็บเล็ตได้
ข้อสังเกตุ
- การปรับขนาดแอป: บางแอป (เช่น WPS Office) เมื่อใช้งานแนวนอนใน Workstation Mode อาจจะต้องปรับเป็นครึ่งหน้าจอจึงจะแสดงผลได้ถูกต้อง
- การควบคุมเสียงแยกแอป: ยังไม่สามารถปรับระดับเสียงของแต่ละแอปที่เปิดพร้อมกันได้
ข้อจำกัดการแสดงผลแอปในแนวนอน: บางแอปที่ไม่รองรับการแสดงผลแบบเต็มหน้าจอแนวนอน อาจจะแสดงผลเป็นแนวตั้งขนาดใหญ่ตรงกลาง ทำให้เหลือขอบดำด้านข้างเยอะ (วิธีแก้คือใช้แบบแบ่งครึ่งจอ) - การถ่ายวิดีโอและ AI ตัดเสียง: เมื่อมีเสียงรบกวน AI อาจจะพยายามตัดเสียงรบกวนและอาจมีผลต่อเนื้อเสียงของเราบ้างเล็กน้อย การอัดเสียงในที่เงียบจะให้คุณภาพดีที่สุด
สรุป Xiaomi Pad 7 Pro คุ้มค่าหรือไม่?
Xiaomi Pad 7 Pro เป็นแท็บเล็ตที่มีสเปคและฟีเจอร์จัดเต็มมากๆ โดยเฉพาะ HyperOS ที่ลื่นไหลและทำงานร่วมกับ Ecosystem ของ Xiaomi ได้อย่างดีเยี่ยม หน้าจอสวยคมชัด กล้องดีเกินคาดสำหรับแท็บเล็ต ระบบเสียงกระหึ่ม แบตอึดชาร์จไว และ AI ที่เข้ามาช่วยให้การใช้งานสะดวกขึ้นอีกระดับ
หากคุณกำลังมองหาแท็บเล็ต Android ประสิทธิภาพสูงเพื่อการทำงาน ความบันเทิง หรือแม้แต่การเล่นเกม Xiaomi Pad 7 Pro คือตัวเลือกที่น่าสนใจมาก ด้วยราคาที่คาดว่าจะคุ้มค่า (แม้ในคลิปจะไม่ได้ระบุราคาชัดเจน) และฟีเจอร์ที่ให้มาแบบรอบด้าน ทำให้เป็นอีกหนึ่งแท็บเล็ตที่ "พระเจ้าสร้างโลก ที่เหลือเสี่ยวมี่สร้าง" จริงๆ ครับ
สนใจดูวีดีโอคลิปรีวิว Xiaomi Pad 7 Pro ได้เลยที่