แชร์

แบตเตอรี่ Silicon-Carbon นวัตกรรมพลิกโฉมวงการมือถือ 2025

อัพเดทล่าสุด: 4 มิ.ย. 2025
39 ผู้เข้าชม

ในยุคที่สมาร์ทโฟนกลายเป็นส่วนหนึ่งของชีวิตประจำวัน แบตเตอรี่คือหัวใจสำคัญที่กำหนดประสบการณ์การใช้งานของผู้ใช้มาโดยตลอด แม้แบตเตอรี่ลิเธียมไอออน (Li-ion) จะครองตลาดมาอย่างยาวนาน แต่ด้วยข้อจำกัดด้านความจุและขนาด ทำให้เกิดการวิจัยและพัฒนาเทคโนโลยีใหม่ๆ หนึ่งในนั้นคือ แบตเตอรี่ Silicon-Carbon (ซิลิคอน-คาร์บอน) ซึ่งกำลังเข้ามาเปลี่ยนแปลงภูมิทัศน์ของสมาร์ทโฟนในปัจจุบัน

แบตเตอรี่ Silicon-Carbon คืออะไร?

แบตเตอรี่ Silicon-Carbon คือแบตเตอรี่ลิเธียมไอออนประเภทหนึ่งที่นำเอา "ซิลิคอน" มาใช้เป็นส่วนประกอบหลักของขั้วแอโนด (ขั้วลบ) แทนที่ "กราไฟต์" ซึ่งเป็นวัสดุที่ใช้กันทั่วไปในแบตเตอรี่ Li-ion แบบดั้งเดิม การเปลี่ยนแปลงวัสดุนี้เป็นกุญแจสำคัญที่ทำให้แบตเตอรี่ Silicon-Carbon มีประสิทธิภาพที่เหนือกว่า

ซิลิคอนมีคุณสมบัติพิเศษที่สามารถกักเก็บลิเธียมไอออนได้มากกว่ากราไฟต์ถึง 10 เท่าในทางทฤษฎี (ประมาณ 4200 mAh/g สำหรับซิลิคอนบริสุทธิ์ เทียบกับ 372 mAh/g สำหรับกราไฟต์) อย่างไรก็ตาม ซิลิคอนบริสุทธิ์มีข้อจำกัดเรื่องการขยายตัวอย่างมากเมื่อดูดซับลิเธียมไอออน (สูงถึง 300%) ซึ่งอาจนำไปสู่ความเสียหายและลดอายุการใช้งานของแบตเตอรี่ได้

ด้วยเหตุนี้ วิศวกรจึงพัฒนาให้ใช้ "วัสดุผสมซิลิคอน-คาร์บอน" (Silicon-Carbon Composite) แทนซิลิคอนบริสุทธิ์ โดยคาร์บอนจะเข้ามาช่วยเสริมโครงสร้าง ลดการขยายตัวของซิลิคอน และเพิ่มความเสถียร ทำให้แบตเตอรี่มีประสิทธิภาพสูงขึ้นและมีอายุการใช้งานที่ยาวนานขึ้น

แบตเตอรี่ Silicon-Carbon ดีกว่าอย่างไร?

ข้อดีหลักๆ ของแบตเตอรี่ Silicon-Carbon ที่ส่งผลดีต่อสมาร์ทโฟนมีดังนี้

  • ความหนาแน่นพลังงานสูงขึ้น (Higher Energy Density): นี่คือจุดเด่นที่สำคัญที่สุด แบตเตอรี่ Silicon-Carbon สามารถเก็บประจุได้มากขึ้นในปริมาตรเท่าเดิม หรือให้ความจุเท่าเดิมแต่มีขนาดเล็กลงและเบาลง ซึ่งหมายความว่าผู้ผลิตสามารถใส่แบตเตอรี่ความจุสูงขึ้นในสมาร์ทโฟนที่มีขนาดบางและเบาได้ หรือจะคงขนาดแบตเตอรี่ไว้เท่าเดิมแต่เพิ่มความจุให้ใช้งานได้นานขึ้น
  • รองรับการชาร์จเร็วได้ดีขึ้น: ด้วยโครงสร้างที่แตกต่างกัน แบตเตอรี่ Silicon-Carbon มีศักยภาพในการรับกระแสไฟฟ้าได้ดีขึ้น ทำให้รองรับเทคโนโลยีการชาร์จเร็วที่กำลังไฟสูงๆ ได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น ลดระยะเวลาในการชาร์จแบตเตอรี่ลงอย่างมาก
  • เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมมากขึ้น: การใช้ซิลิคอนซึ่งมีอยู่มากมายบนโลกแทนธาตุหายากอย่างโคบอลต์หรือลิเธียมในปริมาณมาก ช่วยลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมจากการขุดเจาะและลดการพึ่งพาทรัพยากรหายาก

ตัวอย่างแบรนด์มือถือสมาร์ทโฟนที่ใช้แบตเตอรี่ Silicon-Carbon

หลายแบรนด์สมาร์ทโฟนชั้นนำเริ่มหันมาใช้แบตเตอรี่ Silicon-Carbon ในสมาร์ทโฟนเรือธงและรุ่นใหม่ๆ เพื่อมอบประสบการณ์การใช้งานที่ดีขึ้น ตัวอย่างเช่น

  • Honor (Magic Series, Honor Power) เป็นหนึ่งในผู้บุกเบิกการใช้แบตเตอรี่ Silicon-Carbon ในสมาร์ทโฟนอย่างจริงจัง ยกตัวอย่างเช่น Honor Magic 6 Pro ที่มาพร้อมแบตเตอรี่ Silicon-Carbon ความจุ 5600 mAh ซึ่งสามารถใช้งานได้ยาวนานขึ้นอย่างเห็นได้ชัดเมื่อเทียบกับรุ่นก่อนๆ ที่ใช้แบตเตอรี่ Li-ion ที่ความจุใกล้เคียงกัน หรือแม้แต่รุ่น Honor Power ที่มาพร้อมแบตเตอรี่ขนาด 8000 mAh แต่ยังคงดีไซน์ที่บางเบาไว้ได้ ซึ่งเป็นสิ่งที่ทำได้ยากมากในแบตเตอรี่ Li-ion ทั่วไป ความโดดเด่นคือการรักษาประสิทธิภาพในอุณหภูมิต่ำได้ดี และรองรับการชาร์จเร็วที่ทรงพลัง
  • Xiaomi (Xiaomi 15 Series) มาพร้อมแบตเตอรี่ Silicon-Carbon ขนาด 5400 mAh และ Xiaomi 15 Pro ที่มาพร้อม 6100 mAh ด้วยเทคโนโลยีนี้ ทำให้ Xiaomi สามารถเพิ่มความจุแบตเตอรี่ในเครื่องที่มีขนาดใกล้เคียงเดิมได้ โดยเฉพาะรุ่น Pro ที่มีความหนาแน่นพลังงานสูงถึง 850Wh/L ทำให้ใช้งานได้ยาวนานขึ้นอย่างเห็นได้ชัด
  • OnePlus 13 มาพร้อมแบตเตอรี่ Silicon-Carbon แบบ Dual-cell ความจุ 6000 mAh ซึ่งมีความหนาแน่นพลังงานสูงถึง 805Wh/L ซึ่งถือว่าสูงสุดสำหรับการออกแบบแบตเตอรี่แบบ Dual-cell ช่วยให้ตัวเครื่องยังคงมีขนาดที่กะทัดรัด แต่ใช้งานได้ยาวนานขึ้นอย่างมาก
  • Vivo (Vivo X200 Series) เช่น Vivo X200 และ X200 Pro ก็ได้นำแบตเตอรี่ Silicon-Carbon มาใช้เช่นกัน โดย Vivo X200 มาพร้อม 5800 mAh และ Vivo X200 Pro 6000 mAh ทำให้ผู้ใช้สามารถใช้งานได้นานขึ้น และยังคงรองรับการชาร์จเร็วแบบมีสาย 90W
  • Realme (Realme GT 7 Pro) โดดเด่นด้วยแบตเตอรี่ Silicon-Carbon ขนาด 6500 mAh และการชาร์จเร็ว 120W ที่สามารถชาร์จได้ถึง 50% ในเวลาเพียง 14 นาที ซึ่งเป็นการยกระดับประสบการณ์การใช้งานแบตเตอรี่อย่างชัดเจนเมื่อเทียบกับสมาร์ทโฟนรุ่นก่อนๆ

 

ตัวอย่างมือถือสมาร์ทโฟนที่ใช้แบตเตอรี่ Silicon-Carbon ในปี 2025

Honor Magic 7 Pro

  • แบตเตอรี่: 5,850 mAh Silicon-Carbon
  • การชาร์จ: รองรับชาร์จเร็ว 100W และชาร์จไร้สาย 80W

OnePlus 13

  • แบตเตอรี่: 6,000 mAh Silicon-Carbon
  • การชาร์จ: ชาร์จเร็ว 100W และชาร์จไร้สาย 50W

iQOO Neo10

  • แบตเตอรี่: 6,100 mAh Silicon-Carbon
  • การชาร์จ: ชาร์จเร็ว 120W

Xiaomi 15 Series

  • แบตเตอรี่: สูงสุด 6,000 mAh Silicon-Carbon
  • การชาร์จ: ชาร์จเร็ว 90W และชาร์จไร้สาย 50W

 

โดยสรุปแล้ว แบตเตอรี่ Silicon-Carbon กำลังเป็นเทคโนโลยีที่เข้ามาเติมเต็มช่องว่างของแบตเตอรี่ลิเธียมไอออนแบบเดิมๆ ด้วยความสามารถในการกักเก็บพลังงานที่สูงขึ้น ขนาดที่เล็กลง และการรองรับการชาร์จที่เร็วขึ้น ทำให้สมาร์ทโฟนในอนาคตจะสามารถมอบประสบการณ์การใช้งานที่ยาวนานขึ้น บางเบาขึ้น และชาร์จได้เร็วยิ่งขึ้น ตอบโจทย์ความต้องการของผู้บริโภคในยุคดิจิทัลได้อย่างลงตัว


บทความที่เกี่ยวข้อง
จอ 60Hz vs 120Hz บนมือถือ แบบไหนดีต่อสายตามากกว่ากัน?
การเลือกมือถือที่ตอบโจทย์การใช้งานและถนอมสายตาจึงเป็นสิ่งสำคัญ หนึ่งในสเปกที่หลายคนให้ความสนใจคือ Refresh Rate ของหน้าจอ ซึ่งมีผลโดยตรงต่อความลื่นไหลของภาพและการทำงานของสายตา บทความนี้จะเจาะลึกความแตกต่างระหว่างจอ 60Hz และ 120Hz เพื่อช่วยให้คุณตัดสินใจได้ง่ายขึ้น
4 มิ.ย. 2025
เรือธงแต่ทรงเล็ก มือถือเน้นพกพาง่าย แต่ประสิทธิภาพสูงลิ่วววววว อัปเดตกลางปี 2025
มือถือสมาร์ทโฟนขนาดกะทัดรัดเริ่มหายากขึ้นเรื่อยๆ ในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา แต่ในปี 2025 นี้กลับมีรุ่นที่น่าสนใจสำหรับผู้ที่ชื่นชอบมือถือขนาดเล็ก แม้ว่าสมาร์ทโฟนรุ่นเรือธงส่วนใหญ่จะมีขนาดหน้าจอเกิน 6.7 นิ้ว แต่ก็ยังมีบางรุ่นที่มีหน้าจอเล็กกว่า 6.5 นิ้ว
2 มิ.ย. 2025
มือถือจอสวย จอคุณภาพสูง กินแบตจริงไหม? วิธีประหยัดแบตเตอรี่มีอะไรบ้าง ?
มือถือจอสวย จอคมชัด สีสดใส กินแบตจริงไหม? บทความนี้มีคำตอบ พร้อมแนะนำวิธีประหยัดแบตที่เกี่ยวข้องกับหน้าจอ เช่น ปรับความสว่าง เปิดโหมดมืด และการตั้งค่า Refresh Rate อย่างชาญฉลาด
29 พ.ค. 2025
เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานเว็บไซต์ของท่าน ท่านสามารถอ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ นโยบายคุกกี้
เปรียบเทียบสินค้า
0/4
ลบทั้งหมด
เปรียบเทียบ
Powered By MakeWebEasy Logo MakeWebEasy