แชร์

จอ 60Hz vs 120Hz บนมือถือ แบบไหนดีต่อสายตามากกว่ากัน?

อัพเดทล่าสุด: 4 มิ.ย. 2025
111 ผู้เข้าชม

ในยุคที่สมาร์ทโฟนกลายเป็นส่วนหนึ่งในชีวิตประจำวัน การเลือกมือถือที่ตอบโจทย์การใช้งานและถนอมสายตาจึงเป็นสิ่งสำคัญ หนึ่งในสเปกที่หลายคนให้ความสนใจคือ Refresh Rate ของหน้าจอ ซึ่งมีผลโดยตรงต่อความลื่นไหลของภาพและการทำงานของสายตา บทความนี้จะเจาะลึกความแตกต่างระหว่างจอ 60Hz และ 120Hz เพื่อช่วยให้คุณตัดสินใจได้ง่ายขึ้น

 

Refresh Rate คืออะไร?

Refresh Rate หรืออัตราการรีเฟรชหน้าจอ คือจำนวนครั้งที่หน้าจอแสดงผลภาพใหม่ในหนึ่งวินาที มีหน่วยเป็น Hertz (Hz) ยิ่งค่า Hz สูงเท่าไหร่ ภาพที่ปรากฏบนหน้าจอก็จะยิ่งมีความลื่นไหลและต่อเนื่องมากขึ้นเท่านั้น

  • จอ 60Hz หน้าจอจะแสดงภาพใหม่ 60 ครั้งต่อวินาที ซึ่งถือเป็นมาตรฐานทั่วไปของสมาร์ทโฟนหลายรุ่น
  • จอ 120Hz หน้าจอจะแสดงภาพใหม่ 120 ครั้งต่อวินาที หรือสองเท่าของ 60Hz ทำให้ภาพเคลื่อนไหวดูนุ่มนวลและสมจริงกว่า

 

 

จอ 120Hz ถนอมสายตาได้ดีกว่าจริงหรือ?

โดยทั่วไปแล้ว จอ 120Hz มีแนวโน้มที่จะถนอมสายตาได้ดีกว่าจอ 60Hz ด้วยเหตุผลดังนี้

  • ภาพลื่นไหล ลดการกระตุก เมื่อหน้าจอมี Refresh Rate สูงขึ้น การเปลี่ยนผ่านของภาพจะราบรื่นและต่อเนื่องกว่ามาก ไม่ว่าจะเป็นการ เลื่อนหน้าจอ (scrolling) การเปิดแอปพลิเคชัน หรือแม้แต่การรับชมวิดีโอที่มีการเคลื่อนไหวเร็ว
  • ดวงตาทำงานหนักน้อยลง เมื่อภาพมีความลื่นไหล ดวงตาของเราก็ไม่ต้องทำงานหนักในการประมวลผลการเคลื่อนไหวที่ไม่ต่อเนื่อง หรือภาพที่อาจมีอาการ "กระตุก" เล็กน้อย ซึ่งเป็นสิ่งที่อาจเกิดขึ้นได้กับจอ 60Hz โดยเฉพาะในการใช้งานที่ต้องมีการเคลื่อนไหวของภาพอย่างต่อเนื่อง
  • ลดความเมื่อยล้า การที่ดวงตาทำงานน้อยลง ย่อมส่งผลให้ ลดอาการเมื่อยล้าของดวงตา ปวดตา หรือตาลาย ที่อาจเกิดขึ้นได้เมื่อใช้งานมือถือเป็นเวลานาน

 

ใครที่ควรเลือกมือถือจอ 120Hz?

แม้ว่าจอ 120Hz จะมีข้อดีเรื่องความลื่นไหลและถนอมสายตา แต่ก็อาจไม่จำเป็นสำหรับทุกคน การพิจารณาการใช้งานของคุณจึงเป็นสิ่งสำคัญ

  • นักเล่นเกม หากคุณเป็นคนที่ชื่นชอบการเล่นเกมบนมือถือ โดยเฉพาะเกมแนว FPS หรือเกมที่ต้องการการตอบสนองที่รวดเร็วและภาพที่คมชัด จอ 120Hz จะช่วยให้คุณได้เปรียบและสัมผัสประสบการณ์การเล่นเกมที่เหนือกว่าอย่างเห็นได้ชัด
  • ผู้ที่ใช้งานมือถือตลอดวัน หากคุณใช้มือถือในการทำงาน ท่องโซเชียลมีเดีย หรืออ่านบทความเป็นเวลานาน การที่ภาพลื่นไหลจะช่วยให้ดวงตาสบายขึ้น และลดความเมื่อยล้าสะสมได้
  • ผู้ที่ไวต่อความแตกต่าง บางคนอาจสังเกตเห็นความแตกต่างระหว่าง 60Hz และ 120Hz ได้อย่างชัดเจน หากคุณเป็นหนึ่งในนั้น การลงทุนกับจอ 120Hz ย่อมคุ้มค่า

 

 

ปัจจัยอื่นๆ ที่ส่งผลต่อสุขภาพสายตา

นอกเหนือจาก Refresh Rate แล้ว ยังมีปัจจัยอื่น ๆ ที่คุณควรใส่ใจเพื่อสุขภาพสายตาที่ดี

  • แสงสว่างรอบข้าง หลีกเลี่ยงการใช้มือถือในที่มืดสนิท หรือสว่างจ้าเกินไป ควรปรับแสงหน้าจอให้เหมาะสมกับสภาพแวดล้อม
  • ระยะห่างในการมองจอ ถือมือถือในระยะที่พอเหมาะ ไม่ใกล้หรือไกลเกินไป ประมาณ 30-40 เซนติเมตร
    พักสายตา: ทุก ๆ 20 นาทีที่จ้องหน้าจอ ให้พักสายตา 20 วินาที ด้วยการมองออกไปไกล ๆ หรือกะพริบตาบ่อย ๆ
  • โหมดถนอมสายตา (Eye Comfort Mode / Blue Light Filter) เปิดใช้งานโหมดที่ช่วยลดแสงสีฟ้า ซึ่งเป็นคลื่นแสงที่อาจส่งผลเสียต่อดวงตาและรบกวนการนอนหลับ

 

"60Hz แท้" หรือ "120Hz เทียม" มีอยู่จริงไหม?

คำว่า "120Hz เทียม" อาจไม่ใช่คำที่ตรงซะทีเดียวครับ แต่เป็นเรื่องของการสื่อสารสเปกและการทำงานจริงของหน้าจอที่อาจไม่เป็นไปตามที่ผู้บริโภคคาดหวัง หรือมีการใช้เทคโนโลยีที่แตกต่างกันไป

Adaptive Refresh Rate (หรือ Dynamic Refresh Rate)

มือถือส่วนใหญ่ที่โฆษณา 120Hz ในปัจจุบัน มักจะมาพร้อมกับเทคโนโลยี Adaptive Refresh Rate หมายความว่า หน้าจอไม่ได้วิ่งที่ 120Hz ตลอดเวลา แต่จะปรับ Refresh Rate โดยอัตโนมัติตามเนื้อหาที่แสดงผล เพื่อประหยัดพลังงาน

 

 

ตัวอย่าง

เมื่อคุณอ่าน E-book หรือดูภาพนิ่ง หน้าจออาจลด Refresh Rate ลงเหลือ 10Hz, 30Hz หรือ 60Hz เพื่อประหยัดแบตเตอรี่ เมื่อคุณไถหน้าจอ (scrolling) หรือเล่นเกม หน้าจอจะปรับขึ้นไปที่ 120Hz เพื่อให้ภาพลื่นไหล

ความเข้าใจผิด บางคนอาจมองว่าการที่มันไม่วิ่ง 120Hz ตลอดเวลาเป็น "เทียม" ซึ่งในความเป็นจริงแล้ว นี่คือเทคโนโลยีที่ดีในการประหยัดแบตเตอรี่และเหมาะสมกับการใช้งานจริงครับ ไม่ใช่การหลอกลวง แต่ก็อาจทำให้ผู้ใช้งานที่คาดหวังว่ามันจะวิ่ง 120Hz ตลอดเวลารู้สึกผิดหวังได้

ปัจจุบัน ผู้ผลิตสมาร์ทโฟนรายใหญ่ส่วนใหญ่มีความโปร่งใสมากขึ้นในการระบุสเปก Refresh Rate ครับ การที่โฆษณา 120Hz แล้วไม่ใช่ 120Hz เลยนั้นแทบไม่มีแล้ว (ยกเว้นอาจจะเป็นแบรนด์โนเนมหรือมือถือจีนรุ่นเก่ามากๆ ที่เคยมีการตลาดที่กำกวม)


แต่ประเด็นหลักคือเรื่องของ Adaptive Refresh Rate ที่กล่าวไปข้างต้น ซึ่งอาจทำให้ผู้ใช้งานรู้สึกว่า "ไม่ 120Hz ตลอดเวลา" แต่ก็เป็นคุณสมบัติที่ซับซ้อนขึ้นเพื่อให้เกิดความสมดุลระหว่างประสิทธิภาพและการประหยัดพลังงาน

 

สรุป

โดยสรุปแล้ว แม้ว่าจอ 120Hz บนมือถือจะมอบประสบการณ์ที่ลื่นไหลและสบายตามากกว่า และมีแนวโน้มที่จะถนอมสายตาได้ดีกว่าจอ 60Hz แต่ปัจจัยสำคัญที่สุดคือพฤติกรรมการใช้งานของคุณ การใช้งานมือถืออย่างถูกวิธีและคำนึงถึงสุขภาพสายตา จะช่วยให้คุณเพลิดเพลินกับการใช้งานสมาร์ทโฟนได้อย่างไร้กังวล


บทความที่เกี่ยวข้อง
แบตเตอรี่ Silicon-Carbon นวัตกรรมพลิกโฉมวงการมือถือ 2025
แบตเตอรี่ Silicon-Carbon (ซิลิคอน-คาร์บอน) ซึ่งกำลังเข้ามาเปลี่ยนแปลงภูมิทัศน์ของสมาร์ทโฟนในปัจจุบัน ส่งผลให้แบตความจุสูงขึ้นแต่ยังมีความบางเบาอยู่
4 มิ.ย. 2025
เรือธงแต่ทรงเล็ก มือถือเน้นพกพาง่าย แต่ประสิทธิภาพสูงลิ่วววววว อัปเดตกลางปี 2025
มือถือสมาร์ทโฟนขนาดกะทัดรัดเริ่มหายากขึ้นเรื่อยๆ ในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา แต่ในปี 2025 นี้กลับมีรุ่นที่น่าสนใจสำหรับผู้ที่ชื่นชอบมือถือขนาดเล็ก แม้ว่าสมาร์ทโฟนรุ่นเรือธงส่วนใหญ่จะมีขนาดหน้าจอเกิน 6.7 นิ้ว แต่ก็ยังมีบางรุ่นที่มีหน้าจอเล็กกว่า 6.5 นิ้ว
2 มิ.ย. 2025
มือถือจอสวย จอคุณภาพสูง กินแบตจริงไหม? วิธีประหยัดแบตเตอรี่มีอะไรบ้าง ?
มือถือจอสวย จอคมชัด สีสดใส กินแบตจริงไหม? บทความนี้มีคำตอบ พร้อมแนะนำวิธีประหยัดแบตที่เกี่ยวข้องกับหน้าจอ เช่น ปรับความสว่าง เปิดโหมดมืด และการตั้งค่า Refresh Rate อย่างชาญฉลาด
29 พ.ค. 2025
เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานเว็บไซต์ของท่าน ท่านสามารถอ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ นโยบายคุกกี้
เปรียบเทียบสินค้า
0/4
ลบทั้งหมด
เปรียบเทียบ
Powered By MakeWebEasy Logo MakeWebEasy