ประวัติ Samsung Galaxy S Series จากรุ่นแรกสู่ Galaxy S25 Ultra ปัจจุบันในปี 2025
Samsung Galaxy S Series คือสมาร์ตโฟนระดับเรือธงที่เป็นสัญลักษณ์ของระบบปฏิบัติการ Android มาตั้งแต่ปี 2010 โดยมีการพัฒนาอย่างต่อเนื่องทั้งด้านดีไซน์ กล้อง เทคโนโลยีหน้าจอ และระบบ AI โดยในปี 2025 นี้ ซีรีส์ Galaxy S ก็ได้เดินทางมาถึงรุ่น Galaxy S25 Series ซึ่งถือเป็นอีกหนึ่งจุดสูงสุดของนวัตกรรมสมาร์ตโฟนจาก Samsung
ที่มาของรูป @TechnoStrefa
จุดเริ่มต้น (2010 - 2014) Galaxy 1 ยุคบุกเบิกของ Galaxy S
- Galaxy S (2010): รุ่นแรกที่ใช้จอ Super AMOLED และ Android 2.1 Eclair เปิดศักราชใหม่ให้กับมือถือแอนดรอยด์
- S II - S III - S4: เพิ่มขนาดหน้าจอและความสามารถ เช่นกล้องที่ดีขึ้น การใช้งานมัลติทัช และดีไซน์ที่โค้งมนมากขึ้น
- S5 (2014): มาพร้อมฟีเจอร์กันน้ำ IP67, เซ็นเซอร์สแกนนิ้วมือ และฝาหลังลายจุดเฉพาะตัว
ยุคดีไซน์ล้ำสมัย (2015 - 2019) Galaxy S6 ถึง S10
- Galaxy S6 / S6 Edge: ดีไซน์กระจก-โลหะ และจอโค้งครั้งแรก
- S7 / S7 Edge: กันน้ำ IP68, กล้อง Dual Pixel ที่ถ่ายกลางคืนดีขึ้น
- S8 / S9 / S10: ดีไซน์ไร้ขอบ Infinity Display, เซ็นเซอร์ลายนิ้วมือใต้หน้าจอ, และกล้องคู่ระดับโปร
ยุคกล้องสวย ซูมดี พลังประมวลผลแรง (2020 - 2023) Galaxy S20 ถึง S23
- Galaxy S20 Series (2020): เริ่มใช้หน้าจอ 120Hz, รองรับ 5G และเปิดตัวรุ่น Ultra ที่มีกล้อง 108MP
- S21 / S22 Series: กล้องที่ถ่ายกลางคืนดีขึ้น, วัสดุแข็งแรงขึ้น, ปรับดีไซน์กล้องให้อยู่ในเฟรมตัวเครื่อง
- S23 Series (2023): ใช้ชิป Snapdragon 8 Gen 2 for Galaxy ทุกประเทศ, กล้อง 200MP ในรุ่น Ultra และประสิทธิภาพโดยรวมสูงขึ้นอย่างเห็นได้ชัด
เทคโนโลยี AI และชิปสุดล้ำ (2024 - 2025): Galaxy S24 และ S25 Series
- Galaxy S24 Series (เปิดตัวมกราคม 2024)
- ใช้ Galaxy AI อย่างเต็มรูปแบบ เช่น Live Translate, Generative Edit (ตัดต่อภาพด้วย AI)
- ชิป Exynos 2400 และ Snapdragon 8 Gen 3 for Galaxy ที่ประมวลผลได้รวดเร็วขึ้นและประหยัดพลังงานมากกว่าเดิมโดยเน้นใช้ AI ได้ดี
- รุ่น S24 Ultra ใช้ไทเทเนียม วัสดุเดียวกับ Galaxy Watch 6 และเบากว่ารุ่นก่อน
จุดเด่นของ Galaxy S25 Ultra
- กล้อง AI รุ่นใหม่ ปรับซีนอัตโนมัติแม่นยำขึ้น ถ่ายในที่มืดได้เทียบเท่ากล้องระดับโปร
- จอ AMOLED LTPO ขนาด 6.8 นิ้ว 1-120Hz ที่สว่างที่สุดในตลาด
- ชิป Snapdragon 8 Gen 4 for Galaxy ผลิตด้วยเทคโนโลยี 3nm ทำให้เร็วและเย็น และใช้งานประมวลผล AI ได้ดี
- แบตเตอรี่ 5,000 mAh
- รุ่น S25 และ S25+ ยังคงเน้นประสิทธิภาพดี กล้อง 50MP AI, RAM 12GB และจอ 120Hz ครบทุกฟีเจอร์สำคัญในราคาที่จับต้องได้มากกว่า Ultra
รุ่น Fan Edition (FE) ประสิทธิภาพระดับเรือธงในราคาประหยัด
นอกจากรุ่นหลัก Samsung ยังมีไลน์ Galaxy S FE (Fan Edition) หรือภายหลังมีคำนิยามใหม่ว่า Flagship Experience ที่ได้รับความนิยมเช่นกัน ได้แก่ Galaxy S20 FE / S21 FE / S23 FE / S24 FE และ S 25FE ที่มีข่าวลือเปิดตัวในช่วงครึ่งปีหลัง 2025 มอบประสบการณ์เรือธงในราคาย่อมเยา โดยเน้นชิปแรง กล้องดี และจอ AMOLED รีเฟรชเรตสูง
สรุปภาพรวม 2025 Galaxy S Series ก้าวสู่อนาคต
ในปี 2025 นี้ Samsung Galaxy S Series ยังคงยืนหนึ่งในตลาดมือถือระดับพรีเมียม โดยเน้นการพัฒนาเทคโนโลยี AI บนมือถือ, ประสิทธิภาพที่ตอบโจทย์สายเกม กล้องระดับโปร และการออกแบบที่บาง เบา พรีเมียมยิ่งขึ้น Galaxy S25 Ultra จึงไม่เพียงเป็นสมาร์ตโฟนรุ่นใหม่ล่าสุด แต่ยังเป็นตัวแทนของอนาคตแห่งการเชื่อมต่อ AI และมือถือที่แท้จริง