มือถือคะแนน Benchmark สูง คือใช้งานลื่น จริงไหม? ทนไหม คุ้มค่าหรือไม่

ในยุคที่มือถือกลายเป็นอุปกรณ์สำคัญในชีวิตประจำวัน การเลือกมือถือเครื่องใหม่จึงกลายเป็นเรื่องที่หลายคนให้ความสำคัญ โดยหนึ่งในปัจจัยที่ถูกหยิบยกขึ้นมาพิจารณาอย่างมากก็คือ คะแนน Benchmark ที่มักถูกนำมาใช้เปรียบเทียบประสิทธิภาพของมือถือแต่ละรุ่น หลายคนเชื่อว่ามือถือที่ได้คะแนน Benchmark สูงจะต้องใช้งานลื่น ทนทาน และคุ้มค่ากว่ารุ่นอื่นๆ เสมอ

แต่ในความเป็นจริงแล้ว เรื่องนี้มีรายละเอียดและปัจจัยที่ควรพิจารณามากกว่าที่คิด บทความนี้จะพาคุณไปเจาะลึกทุกแง่มุมของมือถือคะแนน Benchmark สูง เพื่อให้คุณตัดสินใจได้อย่างมั่นใจและเหมาะสมกับการใช้งานของตนเอง

คะแนน Benchmark คืออะไร?

คะแนน Benchmark คือคะแนนที่ได้จากการทดสอบประสิทธิภาพของสมาร์ทโฟนผ่านซอฟต์แวร์เฉพาะ เช่น AnTuTu, Geekbench, 3DMark, PCMark และ GFXBench ซึ่งแต่ละแอปจะมีวิธีการทดสอบที่แตกต่างกัน เช่น

• AnTuTu ทดสอบการประมวลผลโดยรวม ทั้ง CPU, GPU, RAM, การอ่าน-เขียนข้อมูล และ UX
  
• Geekbench เน้นทดสอบ CPU ทั้งแบบ Single-core และ Multi-core
  
• 3DMark เน้นทดสอบการประมวลผลกราฟิก (GPU) สำหรับเล่นเกมหรือแอปที่ใช้กราฟิกหนัก ๆ
  
• PCMark ทดสอบประสบการณ์ใช้งานจริง เช่น การเปิดแอป การใช้งานอินเทอร์เน็ต และการทำงานเอกสาร

ข้อจำกัดของคะแนน Benchmark

• ทดสอบในสภาวะที่ควบคุมได้: คะแนนที่ได้มักจะเป็นผลลัพธ์จากการทดสอบในสภาพแวดล้อมที่เหมาะสมที่สุด ไม่ได้สะท้อนสภาพการใช้งานจริงที่มีปัจจัยแวดล้อมมากมาย
  
• ไม่ได้คำนึงถึงซอฟต์แวร์และ UX: คะแนน Benchmark วัดขีดจำกัดของฮาร์ดแวร์เป็นหลัก แต่ประสบการณ์การใช้งานจริงขึ้นกับการปรับแต่งซอฟต์แวร์และระบบปฏิบัติการด้วย
  
• บางแบรนด์มีการปรับแต่งเพื่อโกงคะแนน: อาจมีการ Overclock หรือปรับแต่งซอฟต์แวร์ชั่วคราวเพื่อให้ได้คะแนนสูงกว่าความเป็นจริง

มือถือคะแนน Benchmark สูง ใช้งานลื่นจริงไหม?

ปัจจัยที่ส่งผลต่อความลื่นไหล

• ชิปประมวลผล มือถือที่ใช้ชิประดับท็อป เช่น Snapdragon 8 Elite, Apple A18 Pro, Dimensity 9400 จะมีประสิทธิภาพสูง รองรับการใช้งานหนักได้ดี
  
• RAM เยอะและหน่วยความจำแบบ UFS 3.1/4.0 หรือ NVMe ช่วยให้เปิดแอปเร็วและสลับแอปได้ลื่น
  
• ระบบปฏิบัติการและซอฟต์แวร์ Android หรือ iOS ที่ได้รับการปรับแต่งดี จะช่วยให้ประสบการณ์ใช้งานลื่นไหล แม้ฮาร์ดแวร์จะไม่แรงที่สุดก็ตาม

ตัวอย่างการใช้งานจริง

• เล่นเกมกราฟิกสูง มือถือคะแนน Benchmark สูงจะรันเกมอย่าง Genshin Impact, PUBG Mobile, Call of Duty Mobile ได้ที่กราฟิกสูงสุดโดยไม่กระตุก
  
• ตัดต่อวิดีโอ/รูปภาพ การเรนเดอร์ไฟล์วิดีโอ 4K หรือแก้ไขภาพขนาดใหญ่จะเร็วกว่า
  
• มัลติทาสก์ เปิดหลายแอปพร้อมกันหรือสลับแอปได้อย่างลื่นไหล

มือถือคะแนน Benchmark สูง ทนไหม?

ปัจจัยที่เกี่ยวข้องกับความทนทาน

• วัสดุและการประกอบ มือถือที่ใช้วัสดุคุณภาพสูง เช่น กระจก Gorilla Glass, อะลูมิเนียม หรือไทเทเนียม จะทนต่อการตกกระแทกและรอยขีดข่วนได้ดีกว่า
  
• มาตรฐานกันน้ำกันฝุ่น มือถือระดับเรือธงมักได้มาตรฐาน IP67 หรือ IP68
  
• ระบบระบายความร้อน มือถือที่แรงมากต้องมีระบบระบายความร้อน เช่น Vapor Chamber, Graphite Sheet เพื่อป้องกันความร้อนสะสม
  
• อัปเดตซอฟต์แวร์และความปลอดภัย แบรนด์ที่อัปเดตซอฟต์แวร์สม่ำเสมอ จะช่วยลดโอกาสเครื่องช้าและเพิ่มความปลอดภัย

มือถือคะแนนสูงแต่ไม่ทน มีจริงไหม? มีมือถือบางรุ่นที่เน้นคะแนน Benchmark สูง แต่ลดต้นทุนด้วยวัสดุพลาสติก หรือไม่มีมาตรฐานกันน้ำกันฝุ่น จึงอาจไม่ทนทานเท่ารุ่นเรือธงของแบรนด์ใหญ่ ๆ

มือถือคะแนน Benchmark สูง คุ้มค่าหรือไม่?

• คุ้มค่าต่อประสิทธิภาพ ถ้าคุณเน้นใช้งานหนัก เช่น เล่นเกม ตัดต่อวิดีโอ หรือใช้ในงานที่ต้องการความเร็ว มือถือคะแนนสูงจะคุ้มค่า เพราะช่วยประหยัดเวลาและลดความหงุดหงิด
• คุ้มค่าต่ออายุการใช้งาน มือถือที่แรงตั้งแต่แรก จะรองรับการอัปเดตและแอปใหม่ๆ ได้ยาวนานกว่ามือถือระดับกลาง
• ผู้ใช้ทั่วไป หากคุณใช้งานแค่โซเชียล ถ่ายรูป ดูวิดีโอ หรือแชท มือถือระดับกลางในราคา 7,000-15,000 บาท ก็เพียงพอ ไม่จำเป็นต้องจ่ายแพงเพื่อคะแนน Benchmark สูง
• คนที่เน้นความทนทานหรืออัปเดตซอฟต์แวร์ บางแบรนด์ที่เน้นคะแนน Benchmark อาจละเลยเรื่องการอัปเดตหรือบริการหลังการขาย
• รีวิวจากผู้ใช้งานจริง ควรดูรีวิวที่เน้นประสบการณ์ใช้งานจริง เช่น การเล่นเกม, การถ่ายรูป, การใช้งานแบตเตอรี่
  
• บริการหลังการขาย ศูนย์บริการที่ดีและการรับประกันที่ครอบคลุม จะช่วยให้มือถือของคุณใช้งานได้ยาวนานและคุ้มค่ากว่า
  
• ราคาและโปรโมชั่น มือถือคะแนนสูงบางรุ่นอาจมีราคาสูงกว่าความจำเป็น ควรเปรียบเทียบกับฟีเจอร์ที่ได้รับ

อย่าดูแค่คะแนน Benchmark ควรดูรีวิวการใช้งานจริง, การอัปเดตซอฟต์แวร์, คุณภาพกล้อง, งานประกอบ, บริการหลังการขาย และราคาประกอบกัน

เทคนิคการโกง Benchmark ที่ใช้กันบ่อย

• การเร่งความเร็ว CPU/GPU เฉพาะตอนรัน Benchmark มือถือจะตรวจจับชื่อแอป Benchmark และสั่งให้ชิปประมวลผลทำงานที่ความเร็วสูงสุดเกินกว่าปกติ เพื่อให้ได้คะแนนสูงสุด แต่เมื่อใช้งานจริง ความเร็วจะถูกจำกัดตามปกติ
  
• การปรับแต่งซอฟต์แวร์เฉพาะเจาะจง บางแบรนด์จะตั้งค่าระบบให้รู้จักแอป Benchmark ว่าเป็นแอปที่ต้องเร่งประสิทธิภาพ แต่ไม่เปิดเผยให้ผู้ใช้ทราบ หรือไม่มีตัวเลือกให้ปิด
  
• การใช้โหมดพิเศษหรือ Overclock ชั่วคราว ระบบอาจเปิดโหมดพิเศษที่ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพเฉพาะช่วงเวลาสั้น ๆ ขณะทดสอบ แต่ไม่สามารถใช้งานได้ต่อเนื่องในชีวิตจริง

การโกงคะแนน Benchmark เป็นเรื่องที่เกิดขึ้นจริงในอดีตและยังมีผลกระทบต่อวงการสมาร์ทโฟนอย่างต่อเนื่อง แม้คะแนน Benchmark จะช่วยให้เห็นภาพรวมของประสิทธิภาพฮาร์ดแวร์ แต่ผู้บริโภคควรใช้เป็นเพียงหนึ่งในหลายปัจจัยประกอบการตัดสินใจ ไม่ควรยึดติดคะแนนเพียงอย่างเดียว เพราะบางครั้งคะแนนสูงอาจได้มาจากการปรับแต่งที่ไม่สะท้อนการใช้งานจริง

***ในอดีตมีข่าวว่าหลายแบรนด์มีการโกงคะแนนการทดสอบด้วยวิธีที่แตกต่างกันออกไปนะครับ ลองหาๆ ข่าวกันอ่านเพิ่มได้เลยนะ

สรุป

มือถือคะแนน Benchmark สูง มักจะมาพร้อมกับประสิทธิภาพที่ยอดเยี่ยม เหมาะกับผู้ที่ต้องการความแรงและรองรับการใช้งานหนักในระยะยาว แต่คะแนน Benchmark ไม่ได้บอกทุกอย่างเกี่ยวกับประสบการณ์ใช้งานจริง ความทนทาน หรือความคุ้มค่าในระยะยาว ดังนั้น ควรพิจารณาปัจจัยอื่น ๆ ร่วมด้วย เช่น วัสดุงานประกอบ ระบบระบายความร้อน การอัปเดตซอฟต์แวร์ และบริการหลังการขาย เพื่อให้ได้มือถือที่ตอบโจทย์และคุ้มค่าที่สุดสำหรับคุณ

อย่าลืม! มือถือที่ดีที่สุด ไม่ใช่แค่แรงที่สุด แต่ต้องเหมาะกับการใช้งานและไลฟ์สไตล์ของคุณด้วย